ล่อลวงไม่หลง มั่นคงในพระคริสต์

คริสตจักรโดยพระคุณ | บทเรียนแคร์ประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธุ์ 2018

ข้อพระคัมภีร์ โคโลสี 2:4-54ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อมิให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยคำชักชวนอันน่าฟัง 5เพราะถึงแม้ว่าตัวของข้าพเจ้าไม่อยู่กับท่าน แต่ใจของข้าพเจ้ายังอยู่กับท่าน และมีความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นท่านอยู่กันอย่างเรียบร้อย และเห็นความเชื่อมั่นคงของท่านในพระคริสต์”

  1. ล่อลวงไม่หลง (4)
  • โคโลสี 2:3 “ความรู้ความล้ำลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์ ซึ่งคลังสติปัญญาและความรู้ทุกอย่างทรงปิดซ่อนไว้ในพระองค์”
  • บัดนี้ได้เปิดเผยสำแดงแล้วผ่านทางกางเขนของพระองค์ เมื่อเราได้รับรู้ว่าในพระคริสต์ เรามีอะไร เป็นอะไร และสามารถอะไรในพระองค์ เมื่อเราตัดสินใจเชื่อวางใจในพระองค์
  • โคโลสี 1:27 “พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้ธรรมิกชนเหล่านั้นรู้ว่า ในหมู่คนต่างชาตินั้นอะไรเป็นความมั่งคั่งแห่งข้อล้ำลึกนี้ คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่าน อันเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี”
  • มารเป็นพ่อแห่งการมุสา หรือการลวงหลอก และเป็นสันดานของมัน คือไม่มีสัจจะ มารได้ใช้วิธีการล่อลวงตั้งแต่ปฐมกาล เพื่อนำคนออกจากวิถีของพระเจ้า
  • ยอห์น 8:44 “ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา”
  • โคโลสี 2:8 “จงระวังให้ดี อย่าให้ผู้ใดทำให้ท่านตกเป็นเหยื่อด้วยหลักปรัชญา และด้วยคำล่อลวงอันเหลวไหลตามตำนานของมนุษย์ ตามภูตผีปิศาจของจักรวาล ไม่ใช่ตามพระคริสต์”
  • เปาโลยกตัวอย่าง หลักปรัชญา นี่เป็นแนวคิดคนต่างชาติคือกรีกสมัยนั้นที่คิดว่าทันสมัยเช่นสามนักปราชญ์เมธี เพลโต โซเคติส อลิสโตเติ้ล แนวคำสอนของนอสติค คือไม่มีพระเจ้านั่นเอง ตำนานของมนุษย์ ในที่นี้คือคำสอนของบรรพบุรุษของยิวที่พยายามดึงผู้เชื่อให้กลับไปสู่การทำตามธรรมบัญญัติดั้งเดิมนั้นเอง ส่วน ภูตผีปีศาจ ก็เป็นเรื่องพวกพ่อหมดหมอผี ดูดวงชะตา ทำให้ออกห่างพระคริสต์
  • 2 โครินธ์ 5:21 “เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์”
  • 1เปโตร 2:24 “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย”
  • 2 โครินธ์ 8:9 “เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสตเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์มั่งคั่ง พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมี”
  • กาลาเทีย 3:13 “พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความแช่งสาปแห่งธรรมบัญญัติ โดยการที่พระองค์ทรงยอมถูกแช่งสาปเพื่อเรา”
  • โคโลสี 2:15 “พระองค์ทรงปลดเทพผู้ครองและศักดิเทพเสีย พระองค์ได้ทรงประจานเขา และชนะเขาโดยกางเขนนั้น”
  • ยอห์น 8:31-3231พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า “ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง 32และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท”
  • ฮีบรู 13:8-9  “8พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อๆไปเป็นนิจกาล 9อย่าหลงไปตามคำสอนต่างๆที่แปลกๆเพราะว่าเป็นการดีอยู่แล้วที่จะให้กำลังใจเข้มแข็งขึ้นด้วยพระคุณ”
  • พระคุณคือ? สิ่งที่พระคริสต์ทำให้ นั่นเอง!!! หน้าที่ของมารก็คือล่อลวง หากเราไม่มั่นคงในความจริงในพระคริสต์ ก็มีคำพยากรณ์อยู่ว่า ยุคสุดท้ายจะมีการถูกทำให้หลงไปจากความจริงในพระคริสต์
  • 2 ทิโมธี 4:1 “พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปิศาจ”
  • กาลาเทีย 1:6-86ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจ ที่พวกท่านพากันละทิ้งพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ แต่ท่านกลับหันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย 7ความจริงข่าวประเสริฐอื่นไม่มี แต่ว่ามีบางคนที่ทำให้ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ 8แม้แต่เราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป”
  • 2โครินธ์ 5:17 “เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น”
  1. มั่นคงในพระคริสต์ (5)
  • คนที่มั่นคงในพระคริสต์ดูจาก 2สิ่งคือ 1) แม้เปาโลไม่อยู่ด้วยพวกเขาก็อยู่ได้ด้วยดีเพราะเหตุเข้าใจความจริงข่าวประเสริฐและการอยู่ร่วมกันนั้น เราเป็นพระกายรักเขาคือรักเรา ช่วยเขาคือช่วยเรารับใช้เขาคือรับใช้เรา นี่คือคริสตจักร 2) ความเชื่อที่มั่นคงในพระคริสต์ ให้ความหมายถึง ความเชื่อที่ฝังอยู่ในจิตสำนึกชอบ
  • 1โครินธ์ 12:25-2725เพื่อไม่ให้มีการแก่งแย่งกันในร่างกาย แต่ให้อวัยวะทุกส่วนพะวงซึ่งกันและกัน 26ถ้าอวัยวะอันหนึ่งเจ็บ อวัยวะทั้งหมดก็พลอยเจ็บด้วย ถ้าอวัยวะอันหนึ่งได้รับเกียรติอวัยวะทั้งหมดก็พลอยชื่นชมยินดีด้วย 27ฝ่ายท่านทั้งหลายเป็นกายของพระคริสต์ และต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น”

เราจะเริ่มเชื่อ และทำอย่างที่พระเจ้าอยากให้เราทำ เมื่อเราอยู่ในพระคริสต์

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากสองส่วน คือ

  1. ส่วนที่พระเจ้าทำให้กับเราได้รับแล้วทั้งหมดผ่านทางพระเยซูคริสต์
  2. ส่วนของเราคือการรับข้อมูลใหม่ผ่านทางพระวจนะ หรือพระสัญญาพระเจ้า ด้วยความเชื่อ
  • มาระโก 11:22-2422พระเยซูจึงตรัสตอบเหล่าสาวกว่า “จงเชื่อในพระเจ้าเถิด 23เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดๆจะสั่งภูเขานี้ว่า “จงลอยไปลงทะเล” และมิได้สงสัยในใจแต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่สั่งนั้น ก็จะเป็นตามนั้นจริง 24เหตุฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ขณะเมื่อท่านจะอธิษฐานพระเจ้าขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ และท่านจะได้รับสิ่งนั้น”

หลักพระเจ้าเชื่อจากข้างในสู่ภายนอก Inside out!

1.เราต้องยอมรับว่า เราทำด้วยกำลังตัวเองไม่ได้

2.รับพระวจนะเข้ามาเปลี่ยนแนวคิดใหม่

  • ให้รับว่านี้คือตัวจริงของเรา ที่ธรรมชาติใหม่ในพระเจ้าได้เกิดขึ้นในเรา นำมาใคร่ครวญพระวจนะที่เป็นฤทธิ์เดช จะทำงานร่วมกับพระวิญญาณของพระเจ้าที่ประทับอยู่ในเราออกมาให้เป็นจริงได้
  • ยากอบ 1:21 “ …จงน้อมใจรับพระวจนะที่ทรงปลูกฝังไว้แล้วนั้น ซึ่งสามารถช่วยจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายให้รอดได้”
  • ฮีบรู 12:1 “เหตุฉะนั้น เมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา”
  • ชีวิตในพระคริสต์จะไม่ถูกหลอก หรือล่อลวงได้โดยง่าย และยิ่งกว่านั้น จะทำให้พวกเขาได้มั่นคงในพระคริสต์อีกด้วย
  • 1 ทิโมธี 4:7-87อย่าใส่ใจกับเทพนิยายอันหาสาระมิได้ จงฝึกตนในทางธรรม 8เพราะถ้าการฝึกทางกายนั้นมีประโยชน์อยู่บ้าง ทางของพระเจ้าก็มีประโยชน์ในทุกทาง เพราะทรงไว้ซึ่งประโยชน์สำหรับชีวิตปัจจุบันและชีวิตอนาคตด้วย
  • โรม 8:37 “แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้น โดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย”