ธรรมนูญคริสตจักรโดยพระคุณ

ธรรมนูญคริสตจักรโดยพระคุณ

27 มิถุนายน 2010

               คริสตจักรคือชุมชนของผู้เชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า และทรงปกครองอยู่เหนือคริสตจักร คริสตจักรโดยพระคุณเป็นคริสตจักรท้องถิ่น มีนิมิตที่จะนำผู้คนมาถึงพระคุณความรักของพระเจ้า ร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแบบพระคัมภีร์ ทั้งทางกายภาพ จิตใจ และจิตวิญญาณ เพื่อทุกคนจะมีนิมิตและความตั้งใจที่จะทำให้พระมหาบัญชาของพระเจ้าสำเร็จและติดตามพระองค์จนถึงวันสุดท้าย ธรรมนูญฉบับนี้จึงได้รับการสถาปนาขึ้นเพื่อปกป้องความเชื่อและสนับสนุนหลักข้อเชื่อของคริสตจักรซึ่งบัญญัติไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ อีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการปกครองบริหารงานของคริสตจักรให้ดำเนินไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามนิมิตของคริสตจักร

หมวดที่ 1

ชื่อ

ข้อที่ 1.   ชื่อคริสตจักรนี้มีชื่อเรียกว่า คริสตจักรโดยพระคุณ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า By Grace  Church

 

หมวดที่ 2

วัตถุประสงค์

ข้อที่ 1. วางรากฐานคริสตจักรและสั่งสอนผู้เชื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ ปฏิบัติตามหลักการพระคัมภีร์

ข้อที่ 2. ประกาศข่าวประเสริฐและทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์

ข้อที่ 3.  ปกครองคริสตจักรโดย ศิษยาภิบาล และคณะผู้ปกครองตามหลักการพระคัมภีร์

ข้อที่ 4. จัดให้มีการประชุมนมัสการ และประกอบศาสนพิธีแก่มวลสมาชิก

ข้อที่ 5.  พัฒนาคุณภาพและศักยภาพชีวิตสมาชิก ในการรับใช้พระเจ้าเป็นทีม

ข้อที่ 6. สร้างบรรยากาศครอบครัวอบอุ่น โดยมีความรักของพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง

ข้อที่ 7.  พัฒนาและเสริมสร้างชีวิตสมาชิกให้สมดุลสู่ความบริบูรณ์

ข้อที่ 8. สนับสนุนและร่วมมือกับคริสตจักรอื่น ที่ประกาศพระคริสต์ และที่มีวัตถุประสงค์สอดคล้องกัน

ข้อที่ 9. ไม่เกี่ยวข้องหรือดำเนินกิจกรรมด้านการเมือง

 

หมวดที่ 3

หลักข้อเชื่อของคริสตจักร

  1. 1.พระเจ้า

เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีองค์เดียว แต่มี 3 พระภาคคือ พระบิดา พระบุตร(พระเยซู)และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว พระเจ้ามี 3 พระภาคแต่ทั้งหมดคือองค์เดียวกันมีความคิดการตัดสินใจเหมือนกันมีความสามารถเหมือนกันและมีสิทธิอำนาจเท่าเทียมกันแต่ปรากฏพระองค์ต่างกันตามบทบาทที่ทรงสำแดง ปัจจุบันพระองค์ทรงครอบครองอยู่ และทรงประทับอยู่ในผู้ที่เชื่อทุกคน

  1. 2.พระเยซูคริสต์และการไถ่บาป

เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในครรภ์หญิงพรหมจารี พระองค์ทรงรับสภาพเป็นมนุษย์ 100% และยังคงสภาพความเป็นพระเจ้าที่ปราศจากบาปพระเยซูลงมาเพื่อตายไถ่บาปมนุษย์ซึ่งเป็นรากของความบาปของอาดัม และไถ่มนุษย์ให้พ้นจากผลของบาปที่นำคำแช่งสาปมาสู่มนุษย์ออกไป โดยการไถ่ของพระเยซูคริสต์เพียงครั้งเดียวก็สามารถลบล้างความผิดบาปของมนุษย์ทุกคนได้ และเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 หลังจากนั้นทรงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ทุกสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้กระทำบนโลกนี้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้วทุกประการ และพระองค์จะเสด็จกลับมารับผู้เชื่ออีกเป็นครั้งที่ 2

  1. 3.ความรอด

คือผลของความเชื่อในการไถ่ชีวิตให้กับผู้เชื่อโดยพระกายและพระโลหิตขององค์พระเยซูคริสต์ที่ไม้กางเขน ได้มีผลทำให้บรรดาคำแช่งสาปที่เกิดจากบาปในอดีตทั้งหมดได้รับการชำระให้หมดสิ้นแล้วและได้ทำให้บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าเป็นจริงได้ให้กับผู้เชื่อ โดยผ่านทางพระเยซูนี้เองจึงส่งผลให้ผู้เชื่อกลายเป็นผู้บริสุทธิ์และชอบธรรม ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่โดยพระคุณไม่ใช่การประพฤติ เพิ่อทุกคนที่ต้อนรับพระเยซูจะได้รับชีวิตนิรันดร์และความครบบริบูรณ์จากพระเจ้า

  1. 4.บัพติศมาในน้ำ

เป็นพิธีที่พระคัมภีร์ให้กับผู้เชื่อเพื่อแสดงตนเองว่าได้มีส่วนร่วมกับการตายและฟื้นของพระเยซู เพื่อประกาศการดำเนินชีวิตใหม่ให้สมกับชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยชัยชนะในองค์พระเยซูคริสต์

  1. 5.บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระวิญญาณเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่องค์พระเยซูคริสต์มอบให้กับคริสตจักรหลังฟื้นคืนพระชมน์ เป็นฤทธิ์เดชในการดำเนินชีวิต และการรับใช้ของผู้เชื่อแสดงออกโดยการพูดภาษาอื่นๆ (แปลกๆ) ที่พระวิญญาณดลใจให้พูด และควรพูดสม่ำเสมอ    หน้าที่ของพระวิญญาณจะเป็นพระผู้ช่วย สามารถนำ และสอนให้เข้าใจหรืออธิษฐานถึงความล้ำลึกในพระทัยของพระเจ้าได้ โดยไม่ขัดแย้งกับพระวาทะในพระคัมภีร์

  1. 6.คริสตจักรท้องถิ่น

ประกอบด้วยผู้เชื่อที่ผูกพันตัวและสามัคคีธรรมกันด้วยความรักและความรู้สึกต่อกันดั่งเป็นกายเดียวกันของพระคริสต์ มารวมตัวกันในสถานที่หนึ่ง เพื่อการนมัสการพระเจ้า และตั้งใจร่วมกันปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าตามของประทาน และบทบาทความสามารถทางสังคมที่พระเจ้ามอบให้ เพื่อที่จะขยายพระราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด คริสตจักรเป็นพระกายของพระเยซูคริสต์บนโลกซึ่งมีพระคริสต์เป็นประมุขที่มีอำนาจเต็มของพระเยซูคริสต์ที่มอบให้ทำการของพระองค์ ในฐานะที่นั่งเบื้องขวาที่เป็นตำแหน่งของสิทธิอำนาจสูงสุดของพระบิดาร่วมกับพระเยซูคริสต์ ที่เหนือนามใดๆ

  1. 7.พระมหาบัญชาขององค์พระเยซูคริสต์

มีไว้ให้กับผู้เชื่อทุกคน เพื่อมีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้าโดยการการประกาศเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐความรอดโดยพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์ สอนและเสริมสร้างเขาให้เป็นสาวกในองค์พระองค์ด้วยหัวใจแห่งความรักซึ่งกันและกัน ร่วมกับคริสตจักรสากลจนกว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา

หมวดที่ 4

สมาชิกภาพ

ข้อที่ 1 สมาชิกภาพแบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1.1     ผู้เชื่อใหม่ หมายถึง บุคคลที่ต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด มีชื่อปรากฏใน   ทะเบียนผู้เชื่อใหม่ของคริสตจักรอย่างเป็นทางการ

1.2     สมาชิกสมบูรณ์ หมายถึง บุคคลที่ต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด รับบัพติศมาในน้ำ ผ่านชั้นสมาชิกภาพ ยินดีร่วมผูกพันตัวและร่วมนิมิตกับคริสตจักร คณะผู้ปกครองของคริสตจักรยอมรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกภาพ และมีชื่อปรากฏในทะเบียนสมาชิกของคริสตจักรอย่างเป็นทางการ

หรือผู้เชื่อที่ได้ลาออกอย่างถูกต้อง ตามระเบียบของคริสตจักรเดิมของตนออย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ยินดีให้สอบถามประวัติข้อมูลของตนจากคริสตจักรเดิม ร่วมผูกพันตัวและร่วมนิมิตกับคริสตจักรโดยพระคุณโดยพิสูจน์ชีวิตในคริสตจักรไม่น้อยกว่าสามเดือน คณะผู้ปกครองของคริสตจักรยอมรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิก และมีชื่อปรากฏในทะเบียนสมาชิกของคริสตจักรอย่างเป็นทางการ

1.3     สมาชิกอนุชน หมายถึง สมาชิกสมบูรณ์ที่มีอายุ ตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 20 ปี

1.4     สมาชิกคริสตจักรเด็ก   หมายถึง บุตรหลานของสมาชิกสมบูรณ์ หรือ บุตรหลานของผู้เชื่อใหม่

ข้อที่ 2. หน้าที่และพันธสัญญาของสมาชิก

2.1   สมาชิกจะดำเนินชีวิตในทางบริสุทธิ์ชอบธรรมตามหลักการพระคริสตธรรมคัมภีร์

2.2   สมาชิกจะช่วยกันปกป้องและรักษาความเป็นเอกภาพของคริสตจักร ตามหลักการพระคริสตธรรมคัมภีร์

2.3   สมาชิกจะร่วมนมัสการในวันอาทิตย์หรือวันที่คริสตจักรกำหนดอย่างสม่ำเสมอ

2.4  สมาชิกจะร่วมกลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตระหว่างสัปดาห์ตามโครงสร้างอภิบาลของคริสตจักร

2.5  สมาชิกจะร่วมถวายสิบลดอย่างสัตย์ซื่อและร่วมถวายทรัพย์อื่นๆ ตามใจสมัคร

2.6  สมาชิกจะร่วมรับใช้ตามของประทานความสามารถภายใต้การนำของศิษยาภิบาล

2.7 สมาชิกจะเชื่อฟังศิษยาภิบาลและผู้นำของคริสตจักรและยินดีรับการแนะนำชีวิตตามหลักการพระคริสตธรรมคัมภีร์

ข้อที่ 3   สิทธิของสมาชิกสมบูรณ์

3.1 มีสิทธิ์รับการดูแลชีวิตทั้งด้านกายภาพ จิตใจ และจิตวิญญาณผ่านโครงสร้างอภิบาลของคริสตจักร

3.2 มีสิทธิ์ร่วมรับใช้ในคริสตจักรตามของประทาน

3.3 มีสิทธิ์เรียนพระคริสตธรรมคัมภีร์ในชั้นเรียนที่เหมาะสม

3.4 มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือในสวัสดิการทุกด้านตามระเบียบของคริสตจักร

3.5 มีสิทธิ์ร่วมในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยคริสตจักร

3.6 มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นผู้นำ คณะกรรมการ หรือ คณะผู้ปกครอง

3.7 มีสิทธิ์ร่วมประชุมตามการประชุมที่เหมาะสม

ข้อที่ 4   การพ้นจากสมาชิกภาพ

4.1   เสียชีวิต

4.2 ลาออก

4.3 ขาดการติดต่อกับ คริสตจักรนานเกิน 6 เดือนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

4.4 กระทำความผิดร้ายแรงในคริสตจักรและไม่กลับใจใหม่

 

หมวดที่ 5

การบริหารงานและการปกครองคริสตจักร

ข้อที่ 1.   คณะกรรมการอำนวยการ เป็นองค์กรบริหารสูงสุดของคริสตจักร

1.1     การบริหารงานในคริสตจักรแบ่งออกเป็น 3 สายงาน ประกอบด้วย สายงานพันธภิบาล สายงานบริหาร และสายงานสนับสนุน

1.2     องค์ประกอบ คณะกรรมการอำนวยการทั้งสิ้น มี 8 คน ประกอบด้วย ศิษยาภิบาล ตัวแทนจากสายงานพันธภิบาล พันธภิบาล 3 คน   ตัวแทนจากสายบริหาร 2 คน และ ตัวแทนจากสายงานสนับสนุน 2 คน โดยมีศิษยาภิบาลเป็นประธานโดยตำแหน่ง

1.3     หน้าที่ คณะกรรมการอำนวยการต้องดำเนินงานอย่างโปร่งใสในการกำหนดนโยบายการบริหารงานของคริสตจักร อนุมัติแผนงานและงบประมาณประจำปี ตัดสินใจเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อคริสตจักร และจัดการประชุมประจำปีเพื่อสรุปผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา แถลงผลงานของคริสตจักรในปีนั้นและสื่อสารงานต่อสมาชิก

ข้อที่ 2. คณะผู้ปกครอง เป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคริสตจักร

2.1    การปกครองฝ่ายวิญญาณในคริสตจักรให้เป็นไปตามโครงสร้างอภิบาล ซึ่งแบ่งออกเป็น กลุ่ม และ แคร์ โดยมีผู้นำระดับต่างๆปกครองดูแลตามลำดับในการอภิบาลดูแลสมาชิก

2.3    องค์ประกอบคณะผู้ปกครอง ประกอบด้วย ศิษยาภิบาล หัวหน้ากลุ่ม และ ผู้ประสานงาน แคร์ โดยมีศิษยาภิบาลเป็นประธานโดยตำแหน่ง

2.4  หน้าที่ คณะผู้ปกครองมีความมุ่งมั่นในการรับใช้พระเจ้า อภิบาลสมาชิกตามหลักการพระ คัมภีร์ นำสมาชิกในการรับใช้พระเจ้าตามของประทาน ประกอบศาสนพิธี และดูแลระเบียบการต่างๆในคริสตจักร

หมวดที่ 6

การรักษาทรัพย์สินและการเงินของคริสตจักร

ข้อที่1 ทรัพย์สินต่างๆของคริสตจักรต้องมีการขึ้นทะเบียนไว้   การหยิบยืมต้องมีการขอเป็นลายลักษณ์ อักษรตามระเบียบของคริสตจักร

ข้อที่2 เงินถวายทุกประเภทถือเป็นทรัพย์สินของพระเจ้า คริสตจักรต้องอารักขาด้วยความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าและด้วยความโปร่งใสต่อพี่น้อง

ข้อที่3 บัญชีคริสตจักรต้องลงนามร่วมเสมอ

ข้อที่4 ฝ่ายบัญชีต้องรายงานการเงินประจำเดือนของคริสตจักรทุกสัปดาห์สุดท้ายของเดือนอย่างโปร่งใส

ข้อที่ 5 ในการเบิกค่าใช้จ่ายใดๆ ต้องมีการอนุมัติและลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเป็นผู้ที่คริสตจักรแต่งตั้งภายใต้วงเงินที่กำหนด

ข้อที่6. บัญชีของคริสตจักรต้องรับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก และต้องแสดงต่อมวลสมาชิกในการประชุมสามัญประจำปี

 

หมวดที่ 7

การประชุมสมัชชา

ข้อที่1  การประชุมสมัชชาเป็นการประชุมของสมาชิกทั้งหมดของคริสตจักร แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การ ประชุมสามัญประจำปี และ การประชุมวิสามัญ

ข้อที่ 2. การประชุมสามัญประจำปีกำหนดให้จัดขึ้นภายในเดือนมกราคมของทุกปี มีการแจ้งสมาชิกผ่านการติดประกาศในคริสตจักร และการประกาศในที่ประชุมนมัสการ ให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน   มีวาระประชุมดังนี้

2.1 ตรวจสอบจำนวนและรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม

2.2 ทบทวนธรรมนูญและกฎระเบียบของคริสตจักร

2.3 รายงานผลงานของคริสตจักรในปีทีผ่านมา

2.4 รายงานบัญชีของคริสตจักรในปีทีผ่านมา

2.5 แผนงานของคริสตจักรในอนาคต

2.6 ลงมติรับรองข้อเสนอพิเศษ

2.7 อื่นๆ

ข้อที่ 3. การประชุมวิสามัญสามารถจัดให้มีขึ้นโดยการเสนอจากคณะกรรมการ 5 ใน 8 ของ คณะกรรมการอำนวยการ หรือ สมาชิกสมบูรณ์เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสมบูรณ์ทั้งคริสตจักรเสนอเรื่องต่อศิษยาภิบาล ต้องมีการแจ้งสมาชิกผ่านการติดประกาศและประกาศในที่ประชุมนมัสการ ให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน

หมวดที่ 8

ภาคผนวก

ข้อที่1. เรื่องใดที่ยังไม่ได้กำหนดในข้อบังคับของธรรมนูญฉบับนี้ ให้ปฏิบัติตามประเพณีนิยมของคริสตจักร และตามคำสอนของพระคริสตธรรมคัมภีร์ โดยให้คณะผู้ปกครองเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยในการดำเนินการต่อไป